คอลัมน์ » หมอพิษณุ….ผู้นำที่คนอื่นอยากเดินตาม

หมอพิษณุ….ผู้นำที่คนอื่นอยากเดินตาม

27 ธันวาคม 2024
38   0

ในระยะนี้มีผู้บริหารที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่บริหารองค์กร ผมขอฝากบทความนี้ให้ผู้บริหารทุกคนอ่านด้วยครับ บทความนี้เขียนโดย “หมอบอย” นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ปัจจุบันเป็นผู้จัดการกองทุน สสส. เคยเป็นอดีตเลขาฯ มูลนิธิแพทย์ชนบท เคยเป็นรอง ผอ.รพ.น่าน ฝ่ายปฐมภูมิสมัยผมเป็น ผอ.

เขียนวิเคราะห์ถึงการบริหารงานของผมได้ดีมาก ผมขอนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นแนวทางบริหารสำหรับผู้บริหารใหม่และเก่าทุกคน จุดประสงค์ก็เพื่อให้มีความสุขในการทำงานบริหาร ทุกคนในองค์กรมีความสุข องค์กรประสบความสำเร็จ “เป็นผู้บริหารที่มีคุณค่า”

“หมอพิษณุ…ผู้นำที่คนอื่นอยากเดินตาม”

​​​​​​​นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์

 

​            มีแพทย์รุ่นพี่ท่านหนึ่งเคยกล่าวว่า บุคคลเมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้ว ไม่มีอะไรเหลืออยู่ทั้ง ลาภ ยศ ตำแหน่ง ผู้คนที่ห้อมล้อม แต่คงเหลือประวัติการทำงาน ประสบการณ์ไว้ให้เพื่อคนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และรุ่นน้องที่เคารพนับถือมาขอคำชี้แนะ

​            เรื่องราวการทำงานของ พี่ณุ หรือ นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ เป็นเรื่องราวที่น่าเรียนรู้ ซึ่งควรจะบันทึกไว้เพื่อให้ แพทย์หรือเจ้าหน้าที่วงการแพทย์-สาธารณสุขรุ่นหลังได้รับรู้ เพื่อเป็นแบบอย่างของการเป็น ผู้นำ ผู้บริหาร-จัดการ นักการสาธารณสุข เป็นครู และเป็นพี่ที่ดี

เสียดายว่าผมมีส่วนร่วมในการบันทึกประวัติชีวิตของพี่ณุได้เพียงแค่ 2 ปีที่ร่วมงานกัน แต่ก็เป็น 2 ปี แห่งการเรียนรู้ที่น่าจดจำ จึงขออนุญาตนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังไว้ ณ ที่นี้ (ผมคิดอยู่ตั้งนานว่าจะเรียกว่า นายแพทย์พิษณุ หรือ หมอพิษณุ หรือพี่ณุ ดี แต่ด้วยความสนิทสนมและเคารพรัก จึงขอใช้สรรพนามเรียกชื่อว่าพี่ณุ เพื่อแสดงถึงความเป็นพี่ชายที่น่าเคารพนับถือของแพทย์โรงพยาบาลน่าน)

หมอณุ ผู้บริหารที่น่าประทับใจ” ก่อนที่พี่ณุ จะมาเป็นผู้อำนวยการที่โรงพยาบาลน่าน มีแต่คนถามว่าใครจะมาเป็น ผอ.คนใหม่ เมื่อพี่แอ๊ว (พญ.วราภรณ์ เตชะเสนา) บอกว่า อาจจะเป็นนพ.พิษณุ ขันติพงษ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ก็มีแพทย์ที่รู้จักพี่ณุ หลายคนที่ดีใจ และบอกว่าถ้ามาจริงก็เป็นโชคดีของโรงพยาบาลน่าน เมื่อพี่ณุมาทำงานจริงๆ ทุกคนก็คิดตรงกันว่าเป็นโชคดีของโรงพยาบาลน่านจริงๆ ดังที่มีครั้งหนึ่งที่อาจารย์บุญยงค์ วงศ์รักมิตร เคยพูดว่า “ฟ้าส่งหมอพิษณุมาให้โรงพยาบาลน่าน เพื่อมาพัฒนาโรงพยาบาลน่าน” ใครที่ได้พบ ปะพูดคุยกับพี่พิษณุแล้ว คงอดที่จะรู้สึกประทับใจในความคิด และมุมมองที่กว้างไกลไม่ได้ และเมื่อพูดคุยแล้วก็จะจากไปด้วยความรู้สึกดี คงเป็นเพราะพี่พิษณุ เป็นผู้บริหารที่ให้เกียรติผู้อื่น รับฟังความคิดเห็นของผู้ร่วมงาน และชื่นชมการทำงานของคนอื่น แต่ถ้าจะติ ก็ติแบบแนะนำให้ความเห็นเพื่อการพัฒนา มีจิตวิทยาในการพูดสูง เหมือนว่าจะคิดกลั่นกรองอยู่ตลอดเวลาในทุกคำที่พูด แต่ก็พูดได้แบบเป็นธรรมชาติ ซึ่งผมเข้าใจว่าเพราะความเป็นตัวของพี่ณุเองที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นและให้เกียรติผู้อื่น จึงใช้คำพูดได้เหมาะสมทุกครั้งในการพูดคุยและการประชุม

            “ผู้นำตามธรรมชาติ” พี่ณุเคยบอกว่าผู้นำมีหลายอย่าง ผมเชื่อว่าพี่ณุจัดเป็นผู้นำตามธรรมชาติ เพราะมีความสามารถของผู้นำที่ดีก็คือ เป็นผู้ที่คนอื่นอยากเดินตาม ในช่วงแรกที่มาทำงานในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน พี่ณุจะให้แนวคิด หลักคิด ในการทำเรื่องต่างๆก่อนที่จะคุยไปถึงในรายละเอียดของเรื่องนั้นๆ ซึ่งถือว่าเป็นบทบาทสำคัญที่ผู้นำพึงทำคือ การชี้ทิศทางที่ถูกต้องให้กับผู้ร่วมทาง ด้วยความที่พี่ณุเป็นคนที่เห็นประโยชน์ของผู้ป่วย และชาวบ้านเป็นที่ตั้ง ดังนั้นการชี้ทิศทางต่างๆ จึงทำให้การกำหนดแนวทางการทำงานเป็นไปได้ง่าย และการประชุมเป็นไปได้ง่าย เพราะจะไม่ไปในทิศทางที่ผลประโยชน์ของประชาชนจะเสียไป

​ พี่ณุสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติทั้งผ่านเฟสบุค ไลน์ต่างๆ ด้วยเรื่องราวการทำงานในแต่ละวัน และชี้นำแนวคิดผ่านสื่อออนไลน์ให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบได้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ทำให้ทุกคนในโรงพยาบาลโดยเฉพาะหัวหน้างานได้รับรู้สไตล์ของผู้บริหาร และสามารถนำไปประกอบกับการตัดสินใจในการทำงานของแต่ละคนแต่ละฝ่ายได้

บริหารองค์กรแพทย์ เรื่องยากที่เป็นเรื่องง่าย” น่าสนใจว่าการบริหารองค์กรแพทย์ ใครๆว่าเป็นเรื่องยาก แต่พี่ณุทำให้เป็นเรื่องง่าย ด้วยการเข้าประชุมองค์กรแพทย์เป็นประจำทุกสัปดาห์ ถ้าไม่ติดภารกิจเร่งด่วน และชี้นำแนวคิดต่างๆ เสนอแนะความเห็นผ่านประธานองค์กรแพทย์ซึ่งคือพี่แอ๊ว ด้วยความที่พี่แอ๊วนับถือพี่ณุอยู่แล้ว และมีส่วนในการเชิญชวนพี่ณุมาทำงานที่น่าน พี่แอ๊วซึ่งเป็นแพทย์อาวุโสที่แพทย์รุ่นน้องนับถือ จึงสามารถนำแนวคิดของผู้อำนวยการในหลายๆเรื่องมาบริหารแพทย์ได้ ไม่ยากอย่างที่คิด

ดังตัวอย่างเช่น

พี่ณุบอกว่า ในเวรห้องฉุกเฉินทุกเวรจะต้องมี staff รุ่นพี่ดูแล ไม่ใช่มีแต่ intern รุ่นน้อง ซึ่งตอนแรก แพทย์หลายคนก็บอกทำไม่ได้ แต่เมื่อเป็นนโยบายผู้อำนวยการ (ที่ทุกคนศรัทธา) เรื่องนี้ก็ทำได้ เพราะพี่ณุขอให้ทำ ไม่ใช่บังคับให้ทำ และเพราะเป็นสิ่งที่พึงทำด้วย

แต่ในหลายๆเรื่อง พี่ณุก็เข้าใจว่า ภาระงานของแพทย์ในโรงพยาบาลน่านมีมาก จึงไม่ได้เรียกร้อง หรือรีดประสิทธิภาพของแพทย์มากขึ้นไปอีก

ด้วยความที่เป็นคนสบายๆ พี่ณุจึงทักทาย เข้าไปคุยกับแพทย์รุ่นน้องทุกคนอย่างเป็นกันเอง จำชื่อแพทย์ทุกคนได้ พี่ณุมักจะเดินไปที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอก ห้องฉุกเฉิน ตึกผู้ป่วยใน ทั้งในเวลาราชการ และนอกเวลาราชการเพื่อทักทาย น้องแพทย์ และสอบถามสาระทุกข์สุขดิบ และส่วนหนึ่งเพื่อรวบรวมปัญหา และเข้าใจปัญหาของการบริการที่แออัด และนำไปหาแนวทางแก้ปัญหา

เช่นในการเดินเยี่ยมตึกผู้ป่วยใน ก็พบว่ามีผู้ป่วยแผลกดทับหลายคนในตึกเดียวกัน ทำให้นัดประชุมหลายฝ่ายเพื่อกำหนดแนวทางในการลดแผลกดทับ โดยให้ศึกษาข้อมูลก่อนว่าเป็นจากแผลกดทับในโรงพยาบาล หรือที่บ้าน พบว่ามีทั้ง 2 ส่วน จึงให้จัดซื้อที่นอนลมไฟฟ้าจำนวน 20 ตัวเพิ่มจากเดิมมีอยู่แล้ว และกระจายไปตามตึกที่มักจะมีผู้ป่วยที่เสี่ยง และมีทีมดูแลอุปกรณ์ดังกล่าว รวมทั้งขอรับบริจาคจากสโมสรโรตารี่เพิ่ม เพื่อนำมาใช้กับผู้ป่วยที่บ้านด้วย

น่าสนใจว่า เคยนั่งคุยกับแพทย์หลายคนที่บางครั้งอาจจะไม่เห็นด้วยกับผู้อำนวยการในบางประเด็น แต่ทุกคนจะลงท้ายด้วยชื่นชมพี่ณุในเรื่องต่างๆ และก็ยอมทำตามที่พี่ณุเสนอต่อไป นั่นคือพี่ณุสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของแพทย์ทุกคนได้แล้ว

งานสร้างเสริมสุขภาพ…เริ่มต้นที่ตัวเองเป็นแบบอย่าง” พี่ณุบอกว่าเราจะบอกให้คนอื่นทำ เราต้องทำตัวเราให้ได้ก่อน พี่ณุตื่นแต่เช้าปั่นจักรยานออกกำลังกาย และไปใส่บาตรทุกเช้า และได้เรียนรู้ปัญหาของชุมชน และนำมาเล่าให้ฟังเพื่อแก้ปัญหาเป็นประจำ เช่น ไปสังเกตว่ามีแหล่งมั่วสุมของเด็กวัยรุ่นที่ไหน มีชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าหลอดไฟแตกเพราะวัยรุ่นยิงหนังสติ๊กแตก และมาพลอดรักกันที่นั่น ซึ่งทำให้ได้ข้อมูลมาพูดคุยและหาแนวทางแก้ปัญหาต่อ

​            เรื่องสุขภาพเจ้าหน้าที่ พี่ณุได้บอกนโยบายว่าเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลน่านต้องเป็นแบบอย่างไม่สูบบุหรี่ ทั้งในและนอกโรงพยาบาล โดยให้นำเจ้าหน้าที่ที่สูบบุหรี่มาเลิกบุหรี่ในคลินิกเลิกบุหรี่ทุกคน และใครที่เลิกได้จะได้พิจารณาความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษในรอบนั้น

​            เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลน่านต้องใส่หมวกกันน๊อคขณะขับขี่ทุกคน ทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งในและนอกโรงพยาบาล เป็นนโยบายที่ผอ.พิษณุบอกกับเจ้าหน้าที่ทุกคน โดยกำชับหลายครั้งและมีบทลงโทษถึงลดการพิจารณาความดีความชอบลง 0.5% จนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลน่านใส่หมวกกันน๊อค 100% และประชาชนที่สวมหมวกกันน๊อค ขับขี่เข้ามารพ.น่าน 92.8% เมื่อดำเนินการในเจ้าหน้าที่และผู้ขับขี่เข้ามาในโรงพยาบาลสำเร็จ พี่ณุจึงได้ขับเคลื่อนต่อโดย หลังจากได้มีโอกาสถวายรายงานเรื่องปัญหาการใส่หมวกนิรภัยในจังหวัดน่านแก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จึงได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งทรงถือหมวกกันน๊อค และขอพระราชทานอนุญาตให้ติดป้าย

“ด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม เราชาวน่านพร้อมใจสวมหมวกกันน๊อค” ซึ่งได้ประสานกับผู้บังคับการตำรวจจังหวัดน่าน อบจ. เทศบาล และขอสนับสนุนค่าป้ายจากห้างร้าน จึงได้ติดป้ายขึ้นทั่วจังหวัดน่านเพื่อเป็นการรณรงค์ให้คนน่านใส่หมวกกันน๊อคกันมากขึ้น

รวมทั้งพี่ณุได้ออกไปให้ความรู้ที่โรงเรียนมัธยม โดยนำกรณีตัวอย่างผู้ป่วยเยาวชนหญิงอายุ17 ปีที่เมาสุราและไม่สวมหมวกกันน๊อคที่นอนไอซียูไปเล่าให้ฟัง และขอความร่วมมือกับผู้อำนวยการโรงเรียนในการตรวจตรา จากการสำรวจที่แยกจราจรพบว่าประชาชนสวมหมวกกันน๊อคเพิ่มขึ้นจาก 40.6% ในปีพ.ศ.2555 เป็น 70.9% ในปี พ.ศ. 2557

“มีความเป็นครูอยู่ในหัวใจ เสมอ” ทุกครั้งที่มีการออกไปนอกพื้นที่ ทั้งคุยกับนักเรียน คุยกับครู หรือ ชาวบ้าน พี่ณุมักจะหาเวลาออกไปร่วมให้ข้อคิด ให้ความรู้เสมอ คงเพราะมีความเป็นครูอยู่ในหัวใจ ห่วงใยและอยากจะแก้ปัญหา การที่ผู้บริหารระดับสูงออกไปร่วมกิจกรรมข้างนอกโรงพยาบาลบ้าง นับเป็นขวัญกำลังใจให้คนทำงาน และทำให้หน่วยงานอื่นๆเห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ

​            เป็นเพราะไม่ต้องกังวลในการไปต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่ของกระทรวงฯ ทำให้พี่ณุมีเวลาให้กับการทำงานกับชุมชนค่อนข้างมาก และด้วยความสนใจในเรื่องของงานสร้างเสริมสุขภาพ ทำให้พี่ณุจัดสรรเวลาให้กับการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ

งานอาหารปลอดภัย เรื่องแรกๆที่เริ่มทำ” ด้วยความที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ที่พี่ณุเคยทำงาน มีชื่อเสียงด้านอาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล ดังนั้น พี่ณุจึงได้ขับเคลื่อนงานอาหารปลอดภัยในโรงพยาบาลน่าน โดยการให้โรงครัวสั่งซื้อข้าวจากโรงสีพระราชทานในสมเด็จพระเทพฯ 100% ซึ่งเป็นข้าวปลอดสารเคมี และสั่งหมูอนามัย ซึ่งเลี้ยงโดยชุมชน ที่ลดการใช้สารเคมี และให้มีการสั่งซื้อผักปลอดสารพิษจากชุมชนต่างๆในจังหวัดน่าน เพื่อเป็นการสนับสนุนชุมชนอีกทางหนึ่ง

การตั้งศูนย์ให้ยืมอุปกรณ์ เพื่อดูแลผู้ป่วยที่บ้าน” พี่ณุเป็นหลักสำคัญที่ทำให้เกิดศูนย์ให้ยืมอุปกรณ์เพื่อการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน โดยสนับสนุนงบประมาณของโรงพยาบาลน่านเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ เช่น เตียงฟาวเลอร์ ที่นอนลมไฟฟ้า เครื่องฉีดมอร์ฟีนเข้าใต้ผิวหนัง เครื่องผลิตออกซิเจน เพื่อใช้กับผู้ป่วยระยะสุดท้าย ตามที่ พญ.วาลิกา รัตนจันทร์ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเสนอ และขอสนับสนุนเครื่องผลิตออกซิเจนจำนวน 100 ตัว ที่นอนลมไฟฟ้า 20 ตัว จากสโมสรโรตารี่ เพื่อนำมาให้ผู้ป่วยถุงลมโป่งพอง และอัมพาตติดเตียงใช้ที่บ้าน จนนำไปสู่การจัดตั้งศูนย์ให้ยืมอุปกรณ์ฯของเขตเทศบาลเมืองน่าน และของบประมาณองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน จัดซื้อเพื่อใช้ในเขตจังหวัดน่าน และกำลังขยายไปสู่องค์การบริหารส่วนตำบลและเทศบาลทั้งจังหวัดน่าน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยที่มีฐานะไม่ดี สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่ใช้ดูแลที่บ้านได้ครบถ้วนต่อไป

“เป็นนักสื่อสารประชาสัมพันธ์ตัวยง” ในทุกวันพฤหัส จะเห็นภาพพี่ณุใน Facebook ที่ออกรายการวิทยุของสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยประจำจังหวัดน่าน และเคเบิ้ลท้องถิ่น ทุกสัปดาห์ เพื่อนำเรื่องราวดีๆที่โรงพยาบาลน่านได้ทำ ไปเล่าสู่กันฟัง และรับฟังข้อแนะนำติชมจากผู้ฟังทางบ้านมาพัฒนาโรงพยาบาล และนำเรื่องราวของผู้ป่วยที่สามารถป้องกันได้ ไปสื่อสารให้เกิดการป้องกันโรคในชุมชน ผมสัมผัสได้ว่า พี่ณุไม่ได้มาเพราะจำเป็นต้องมาในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน แต่มาออกรายการวิทยุด้วยความสุขที่อยากมาแบ่งปันแง่คิด และให้ข้อมูลกับสังคม

การประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆนอกโรงพยาบาล” น่าแปลกใจว่าผมทำงานในจังหวัดน่านมา 20 กว่าปี แต่รู้จักคนในหน่วยงานนอกโรงพยาบาลน่าน น้อยกว่า พี่พิษณุซึ่งทำงานมาเพียง 2 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเข้าสังคม การรับความช่วยเหลือและการให้ความช่วยเหลือกับหน่วยงานอื่นๆได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่เป็นนักสังคมตามธรรมชาติ ทำให้พี่พิษณุมีเพื่อนอกวงการสาธารณสุข และนอกวงการราชการ จำนวนมาก ที่สามารถดึงมาช่วยเหลืองานโรงพยาบาลน่านได้

​            ดังเช่นเมื่อต้องการจัดตั้งกองทุนแก้ปัญหาหมวกนิรภัยในจังหวัดน่าน ก็สามารถหาเงินมาจำนวน 300000 บาท จากผู้สนใจทำบุญ และร่วมกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถในการจัดหาหมวกกันน๊อคที่มีมาตรฐานราคา 100 บาท และมีรูปปู่ม่านย่าม่านกระซิบรักบันลือโลกติดไว้ที่หมวกกันน๊อค เพื่อรณรงค์ให้คนน่าน โดยเฉพาะเด็กนักเรียนน่านใส่กันตลอดเวลา

“ทำไมใครๆก็รัก” ​คงเป็นเพราะ พี่ณุให้เกียรติทุกคน ให้เกียรติคนทำงาน ในการประชุมทุกครั้ง พี่ณุจะกล่าวชื่นชมทุกคนที่มีส่วนในการทำงานให้สำเร็จ และขอบคุณหน่วยงานต่างๆที่มีส่วนร่วมในการทำงาน ไม่มีการตำหนิต่อหน้า แต่อาจจะแนะนำลับหลัง นั่นทำให้คนส่วนใหญ่รัก ผอ.คนนี้ ผมเชื่อว่าแทบทุกคนที่ทำงานในโรงพยาบาลน่าน น่าจะคิดตรงกันว่ารู้สึกภาคภูมิใจที่มีผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่านชื่อ และ เชื่อว่าชาวจังหวัดน่านส่วนใหญ่ก็คงรู้สึกเช่นกัน

ในโอกาสที่พี่ณุกำลังจะเกษียณอายุราชการในช่วงเดือนกันยายนพ.ศ.2557 นี้ แม้จะเสียดายเพียงใด แต่พี่ณุ ก็ต้องอำลาจากชีวิตราชการที่โรงพยาบาลน่าน แต่เชื่อว่า พี่ณุยังคงเป็นที่ปรึกษาให้กับโรงพยาบาลน่าน และวงการสาธารณสุขต่อไป

​            มีคนถามว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่านคนต่อไปเป็นใคร อาจจะไม่สำคัญ เพราะว่าโรงพยาบาลน่านได้มีวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งที่วางรากฐานอิฐก้อนแรกตั้งแต่อาจารย์นายแพทย์บุญยงค์ วงศ์รักมิตร มาต่อเติมเสา กำแพงที่นพ.คณิต ตันติศิริวิทย์ และมาใส่หลังคาที่นพ.นิวัตชัย สุจริตจันทร์ จนมาตกแต่งอย่างสวยงามในสมัยนพ.พิษณุ ขันติพงษ์ เชื่อว่าถ้ามีผู้อำนวยการคนใหม่ที่ดี ย่อมจะสามารถต่อเติมเสริมแต่งความงดงามต่อไปได้ แต่ถ้ามีผู้อำนวยการที่มีปัญหามา วัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งย่อมเป็นเกราะที่ดีสำหรับผู้ที่จะมาทำลาย และเขาคงจะอยู่ไม่ได้ แต่เชื่อว่าวัฒนธรรมองค์กรที่ดีย่อมสามารถสร้างและเปลี่ยนแปลงคนใหม่ที่เข้ามาเพื่อปฏิบัติตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีของโรงพยาบาลน่านต่อไป



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า